ผู้บริหารที่ต้องการประสบความสำเร็จในอนาคต จะต้องเริ่มต้นด้วยการศึกษาการบริหารเชิงกลยุทธ์ เพราะโลกในการบริหารธุรกิจมีความสลับซับซ้อนและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งธุรกิจจะต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงนั้น ถ้าผู้บริหารขาดความชำนาญในการกำหนดกลยุทธ์และการปฎิบัติตามกลยุทธ์จะทำให้ธุรกิจต่อสู้กับคู่แข่งขันไม่ได้ ดังนั้นผู้บริหารในระดับองค์การต่าง ๆ จึงให้ความสำคัญเกี่ยวกับความรับผิดชอบในการกำหนดกลยุทธ์ และกระบวนการวางแผนกลยุทธ์ที่มีรูปแบบ แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญตามหน้าที่ ก็จะต้องเข้าใจแนวความคิดการบริหารเชิงกลยุทธ์พื้นฐานด้วยเช่นกัน

วันอังคารที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2552

สภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยี

เทคโนโลยีและนวกรรม(Technology and innovation) ธุรกิจส่วนใหญ่จะต้องสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ขาย วิธีการบริโภคของคนล่าสุดอาจจะต้องอาศัยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี เนื่องจากธุรกิจขึ้นอยุ่กับเทคโนโลยีอย่างมากจึงต้องคอยติดตามสิ่งใหม่ ๆ ทางด้านเทคโนโลยีจากคู่แข่งขัน ความไม่ต่อเนื่องทางด้านเทคโนโลยีทำให้เกิดปัญหาสำหรับผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิต ดังนั้นธุรกิจจะต้องจัดระบบ คอยติดตามสภาพแวลล้อมทางเทคโนโลยี

อุตสาหกรรมที่สำคัญในประเทศที่ขึ้นกับเทคโนโลยี ได้แก่ โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ เครื่องคิดเลข เครื่องบิน โรงงาน เครื่องเลเซอร์ เครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องโทรสาร เครื่องจักรถ่ายภาพ เหล่านี้เป็นผลิตภัณฑ์ซึ่งต้องอาศัยเทคโนโลยี เทคโนโลยีใหม่ที่สำคัญจะสามารถสร้างอุตสาหกรรมใหม่ด้วย เช่น อุตสาหกรรมไมโครคอมพิวเตอร์ และอุตสาหกรรมถ่ายภาพ ธุรกิจจะต้องเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีใหม่ในอุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่งเพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีของคู่แข่งขัน การเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในสภาพแวดล้อมทางเทคโนโลยีต้องอาศัยความพยายามของธุรกิจในการพยากรณ์เทคโนโลยี กระบวนการนี้จะเกี่ยวข้องกับวิจารณญาณในการพยากรณ์เทคนิคต่าง ๆ การพยากรณ์เทคโนโลยีเป็นสิ่งยากที่จะถูกต้อง ผู้บริหารการจัดการเชิงกลยุทธ์จะต้องทำให้ดีที่สุดนี่คือเหตุผลที่ว่าการกลั่นกรองสภาพแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญในการเปลี่ยนแปลง ตัวอย่าง คอมพิวเตอร์ Apple ได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ในระบบ Macimtosh เทคโนโลยีนี้ทำให้ Apple มีข้อได้เปรียบทางการแข่งขันในตลอดระยะเวลา 5 ปี คอมพิวเตอร์สามารถที่จะสร้างลักษณะเปลี่ยนแปลงเป็นกลยุทธ์ในระยะสั้นและมีนวกรรมมากขึ้นในช่วงระยะยาว

เทคโนโลยีและความรับผิดชอบต่อสังคม(Technology and social responsibility) ในขณะที่เทคโนโลยีมีความสำคัญในความสำเร็จของธุรกิจทำให้เกิดปัญหาหลายบริษัทเช่นกัน ผลลัพธ์จากเทคโนโลยีใหม่บางครั้งจะทำลายสภาพแวดล้อม ทุกองค์การซึ่งไม่ใช่เฉพาะธุรกิจจะต้องประเมืินผลกระทบของธุรกิจต่อสภาพแวดล้อมทางกายภาพ เช่น ผลกระทบจากนิวเคลียร์ทั้งด้านรัฐบาลและเศรษฐกิจ มลพิษจากน้ำมันที่มีสารตะกั่ว มลพิษจากอาหาร วัสดุเคมี ซึ่งทำให้เกิดมลภาวะเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม ปัญหาด้านสุขภาพซึ่งอาจจะเป็นผลกระทบต่อบุคคล เช่นโรคมะเร็งและโรคต่าง ๆ ในอัตราสูงขึ้นกว่าปกติซึ่งเกิดจากปัญหาขยะมูลฝอย กลยุทธ์อุตสาหกรรมจะต้องตอบสนอง และแก้ปัญหาสิ่งเหล่านี้ด้วย ต้องศึกษาความต้องการของสังคมและคุณภาพชีวิต ถ้าธุรกิจล้มเหลวปัญหานี้จะทำให้เกิดปัญหาต่อสังคมในภายหลัง

บทบาทของธุรกิจมีมากกว่าการผลิตหรือการขายสินค้า นอกเหนื่อจากการปฎิบิติตามกฎหมายแล้วธุรกิจจะต้องมีความมุ่งหมายด้านศีลธรรมและจรรยาบรรณ ตลอดจนมีส่วนร่วมในโครงการมนุษยชาติ เพื่อที่จะเป็นบริษัทที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม(socialy responsibly corporate systems) ธุรกิจต้องเรียนรู้ว่าจะต้องตอบสนองต่อความต้องการของผู้ถือหุ้น โดยเฉพาะกลุ่มสำคัญที่มีอิทธิพล ผู้ที่มีผลประโยชน์ในองค์การและกลุ่มที่มีความกดดันที่สำคัญต่อธุรกิจ

การคำนึงถึงค่านิยมด้านศีลธรรม(Moral values) อิทธิพลด้านสภาพแวดล้อมภายนอกซึ่งเป็นข้อจำกัดของธุรกิจ ธุรกิจจะต้องมีกลยุทธ์ที่เกี่ยวข้อง กับความรับผิดชอบทางด้านสังคม ได้ร่วมพัฒนาสังคมและหลีกเลี่ยงปัญหาต่าง ๆ ต้องพัฒนาการทำงานด้านสังคม การตอบสนองต่อสังคม โดยอาจจะมีรองประธานฝ่ายนโยบายด้านสภาพแวดล้อม

ข้อมูลจาก

การบริหารเชิงกลยุทธ์และกรณีศึกษา
ร.ศ.ศิริวรรณ เสรีรัตน์ และคณะ